เมืองคาริยะ (ประเทศญี่ปุ่น) ― บริษัท เด็นโซ่ คอร์ปอเรชั่น ประกาศว่าบริษัทได้พัฒนาอุปกรณ์ตรวจจับเรดาร์แบบคลื่นสั้นกว่ามิลลิเมตรที่คลื่นความถี่ 24 กิกะเฮิรตซ์ ที่ตำแหน่งด้านหลังและด้านข้างของยานพาหนะ เพื่อช่วยสนับสนุนระบบความปลอดภัยในยานพาหนะ โดยอุปกรณ์ตรวจจับนี้ได้นำไปใช้ในรถยนต์โตโยต้า คัมรี่ 2018 ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

อุปกรณ์นี้ได้ใส่ไว้ในตำแหน่งที่สำคัญ คือส่วนกันชนหลังของยานพาหนะ เพื่อตรวจจับยานพาหนะต่าง ๆ ที่เข้ามาในพื้นที่จุดบอดของคนขับทั้งทางด้านหลังและด้านข้าง ตลอดจนยานพาหนะที่เข้ามาจากด้านหลังฝั่งซ้ายและฝั่งขวาขณะถอยหลัง อุปกรณ์ตรวจจับนี้ เป็นส่วนหนึ่งของระบบที่ใหญ่ขึ้น  ที่จะช่วยผู้ขับขี่จำแนกและหาตำแหน่งยานพาหนะคันอื่นที่อยู่โดยรอบ ขณะทำการเปลี่ยนช่องทางจราจรหรือถอยออกจากพื้นที่จอดรถ รวมถึงควบคุมฟังก์ชั่นเบรกฉุกเฉินอิสระ เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะฉุกเฉิน

เพื่อให้สามารถตรวจจับได้อย่างแม่นยำไม่ว่าจะในขณะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าหรือถอยหลัง วงจรเลื่อนเฟสจะตรวจจับการเปลี่ยนทิศทางและระยะของเรดาร์แบบคลื่นสั้นกว่ามิลลิเมตร การส่งผ่านและรับคลื่นวิทยุ รวมทั้งฟังก์ชั่นวงจรเลื่อนเฟส จะทำงานผ่านวงจรรวมแยกออกไปต่างหาก (Integrated Circuits: ICs) ทั้งนี้ เพื่อลดขนาดของอุปกรณ์ตรวจจับ  

ในปี พ.ศ. 2546 เด็นโซ่เป็นบริษัทแรกของโลกที่พัฒนาและดำเนินการเชิงพาณิชย์ในด้านอุปกรณ์ตรวจจับเรดาร์แบบคลื่นมิลลิเมตรในยานพาหนะโดยการกวาดภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งใช้เทคโนโลยีการสร้างลำแสงแบบดิจิตอล (Digital beamforming) และด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเหล่านี้ เด็นโซ่ จะส่งมอบสังคมยานยนต์ที่มั่นคงและปลอดภัยสำหรับผู้คนทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง

เวเฟอร์เซมิคอนดักเตอร์สำหรับ MMIC* ที่ผลิตโดยบริษัท ทาวเวอร์ แจ๊ส (http://towerjazz.com) ใช้เพื่อรักษาระดับเอาต์พุตและความไวในการรับเข้า
* วงจรรวมไมโครเวฟโมโนลิตริก (Monolithic Microwave Integrated Circuit)

เกี่ยวกับเรา

บริษัท เด็นโซ่ คอร์ปอเรชั่น มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองคาริยะ จังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้ผลิตและพัฒนาอุปกรณ์ชิ้นส่วนยานยนต์และเทคโนโลยีชั้นนำของโลกในกลุ่มสินค้าด้านระบบปรับอากาศ ระบบส่งกำลัง ระบบไฟฟ้า ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบสารสนเทศและความปลอดภัย ซึ่งมีลูกค้าเป็นผู้ผลิตยานยนต์ระดับโลก กลุ่มบริษัทเด็นโซ่มีมากกว่า 200 สาขาใน 38 ประเทศทั่วโลก (รวมทั้งในประเทศญี่ปุ่น) และมีพนักงานประมาณ 150,000 คน มีผลประกอบการทั่วโลกประจำปีงบประมาณสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2560 ทั้งสิ้น 40,400 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยใช้งบลงทุนเพื่อการวิจัยและการพัฒนาจำนวน 9.0 เปอร์เซ็นต์ของผลประกอบการทั่วโลกในปีงบประมาณที่ผ่านมาและเปิดจำหน่ายหุ้นสามัญที่ตลาดหุ้นโตเกียวและนาโกย่า ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.denso.com หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ข่าวสารของเด็นโซ่ได้ที่ www.denso.com/global/en/news/media-center/