เมืองคาริยะ (ประเทศญี่ปุ่น) – บริษัท เด็นโซ่ คอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตและพัฒนาชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลก ได้ทำการลงทุนเกือบ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ในกลุ่มธุรกิจเกิดใหม่ทั่วโลก หนึ่งในกลยุทธ์ของแผนระยะยาวในการเตรียมระบบซอฟต์แวร์พื้นฐานที่มุ่งเน้นไปที่ ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า การขับขี่อัตโนมัติขั้นสูง การเชื่อมต่อและการใช้ข้อมูลระบบร่วมกัน ตั้งแต่เรื่องการจารกรรมในโลกไซเบอร์ไปจนถึงเซมิคอนดักเตอร์และเซ็นเซอร์ระบบตรวจจับ เด็นโซ่กำลังลงทุนในกลุ่มธุรกิจเกิดใหม่ที่มุ่งเน้นการสร้างสรรค์เทคโนโลยีการขับเคลื่อนยานยนต์เป็นหลักซึ่งจะกลายมาเป็นผู้เล่นที่มีบทบาทสำคัญในการให้บริการด้านการพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนยานยนต์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ ความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการใช้งาน 

“เด็นโซ่” มีความเชื่อมั่นในแบบแผนการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพอันเนื่องมาจากความพยายามของแผนกวิจัยของตนเองมาโดยตลอด แต่ในราว 5 ปีที่ผ่านมา เราได้ตระหนักถึงการคงความเร็วในการพัฒนาให้เทียบเท่ากับการเปลี่ยนแปลงที่ถูกคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าของอุตสาหกรรมยานยนต์และความต้องการของผู้ใช้ เราจึงจำเป็นต้องเปิดรับต้นแบบนวัตกรรมและให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเทคโนโลยีจากทั้งภายในและภายนอกในทุกแขนงของผลิตภัณฑ์ นายโทนี่ แคนเนสตรา ผู้อำนวยการ การร่วมทุนองค์กร ของบริษัท เด็นโซ่กล่าว “เด็นโซ่” เคยเป็นทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับ สปาร์คปลั๊ก และ ระบบปรับอากาศในรถยนต์ และแม้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญสำหรับเรา แต่เราก็ต้องพยายามให้ความสนใจในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบเศรษฐกิจของ ซอฟต์แวร์ และผลิตภัณฑ์ที่มีความก้าวหน้า และเทคโนโลยีการขับเคลื่อนยานยนต์อื่นๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีความยืดหยุ่นในการพัฒนาอย่างเฉพาะตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการขับขี่อัตโนมัติ” 

กลุ่มธุรกิจที่เด็นโซ่ได้ร่วมลงทุนในปัจจุบัน 

• การขับขี่อัตโนมัติ : เด็นโซ่ลงทุนเพิ่มเงินเหรียญสหรัฐฯ ในกองทุน  Ridecell’s Series B เพื่อการพัฒนาของการใช้ข้อมูลระบบร่วมกันของการขับเคลื่อน ซึ่งกองทุนดังกล่าวเป็นหุ้นส่วนของ บริษัท ThinCI ซึ่งทำการขยายการเรียนรู้เชิงลึกเกี่ยวกับยานยนต์อัตโนมัติ

• การรักษาความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ : เด็นโซ่นำเงินลงทุนรอบแรกของ Dellfer ไปใช้ในการพัฒนาบริษัทรักษาความปลอดภัยและการป้องกันในโลกไซเบอร์สำหรับการเชื่อมต่อต่างๆ และยานยนต์อัตโนมัติ 

• อุปกรณ์ระบบไฟฟ้า : การลงทุนใน FLOSFIA มุ่งเน้นไปที่อุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ที่คาดว่าจะลดการสูญเสียพลังงาน ค่าใช้จ่าย ขนาดและน้ำหนักของเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในยานยนต์ระบบไฟฟ้า

• เซ็นเซอร์ระบบตรวจจับ : ร่วมกับกลุ่มนักลงทุนรายอื่นๆ บริษัท เด็นโซลงทุนในบริษัท Metawave คอร์ปอเรชั่นเพื่อเร่งพัฒนาและปรับปรุงสมรรถนะของเซ็นเซอร์เรดาร์ตรวจจับ “เรดาร์อัจฉริยะในรถยนต์" สำหรับยานยนต์อัตโนมัติ

กลุ่มธุรกิจเกิดใหม่ที่อยู่เบื้องหลังเด็นโซ่ จะเข้าร่วมกับเด็นโซ่ในงาน Consumer Electronics Show (CES) ประจำปี พ.ศ. 2562  บริษัท ThinCI บริษัท Dellfer บริษัท Metawave และ บริษัท Ridecell จะสาธิตเทคโนโลยี แก่ผู้ชมในบู๊ทเด็นโซ่ ซึ่งอยู่เลขที่ #4619 ในงาน  โดยงานจะจัดขึ้นที่เมือง ลาสเวกัส รัฐเนวาดา ตั้งแต่วันที่ 8 – 11 มกราคม พ.ศ. 2562 

ในอนาคต เด็นโซ่จะลงทุนในกลุ่มธุรกิจเกิดใหม่และบริษัทผู้ประกอบการต่างๆ ที่จะช่วยเพิ่มนวัตกรรมในอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างต่อเนื่อง ในปี พ.ศ. 2554 เด็นโซ่ได้มีการเปิด Silicon Valley ของตัวเองซึ่งจะทำให้เด็นโซ่ก้าวสู่ความเข้มแข็งและเติบโตทั้งในกลุ่มธุรกิจหลักเกี่ยวกับยานยนต์ สามารถเจาะจงและให้การสนับสนุนธุรกิจ เทคโนโลยีที่นอกเหนือจากยานยนต์ที่จะสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาการขับเคลื่อนได้ต่อไป  และในปี พ.ศ. 2557เด็นโซ่ได้ ทำการขยายออฟฟิศใน Silicon Valley เพื่อให้การสนับสนุนและช่วยส่งเสริม บริษัทกลุ่มธุรกิจเกิดใหม่เพิ่มมากขึ้นและยังช่วยให้เกิดกิจกรรมต่างๆ ในการวิจัยและพัฒนาในหลากหลายนวัตกรรม ในปี พ.ศ. 2559 เด็นโซ่เริ่มเปิดตัวออฟฟิศวิจัยและพัฒนาระบบดาวเทียมในที่ต่างๆ ทั่วโลกเพื่อทำการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงและการบริการ 

“เด็นโซ่มีประวัติอันยาวนานและเรายังต้องการอยู่ที่นี่ไปอีกอย่างน้อย 70 ปีขึ้นไป เพื่อลูกค้าและพนักงานของเรา” นายแคนเนสตรา กล่าว “เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เราต้องมีหุ้นส่วนที่ดี ที่มุ่งเน้นในการพัฒนาเทคโนโลยี ที่จะส่งผลต่อการเติบโตอย่างต่อเนื่องในด้านการขนส่งของเราทั้งในปัจจุบันและในอนาคต”

เด็นโซ่ มีสำนักงานใหญ่ อยู่ที่เมือง คาริยะ จังหวัด ไอจิ ประเทศ ญี่ปุ่น มีบริษัทในเครือมากกว่า 220 บริษัท อยู่ใน 35 ประเทศ และ ในภูมิภาคต่างๆ (รวมทั้งในประเทศญี่ปุ่น) และ มีการจ้างพนักงาน ประมาณ 170,000 คนทั่วโลก ผลประกอบการจากยอดขายทั่วโลกจากปีงบประมาณ ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2561 รวมทั้งสิ้น 48,100 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปีที่ผ่านมา เด็นโซ่ ได้ใช้งบประมาณ 8.8 เปอร์เซ็นต์ ของผลประกอบการจากยอดขายทั่วโลกในการวิจัยและพัฒนา โดยหุ้นสามัญของเด็นโซ่มีการซื้อขายทั้งที่ตลาดหลักทรัพย์ที่โตเกียว และตลาดหลักทรัพย์ที่นาโกย่า สำหรับข้อมูลอื่นๆ สามารถดูเพิ่มเติมได้จาก www.denso.com หรือเยี่ยมชมสื่ออื่นๆ ของเราได้ที่ www.denso.com/global/en/news/media-center/.