เมืองคาริยะ (ประเทศญี่ปุ่น) – บริษัท เด็นโซ่ คอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตและพัฒนาชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลก ประกาศผลการดำเนินงานทั่วโลกประจำไตรมาสที่ 1 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2562 ประจำปีงบประมาณสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 สรุปดังนี้

·     รายได้รวม 1,324,100 ล้านเยน (12,300 ล้านเหรียญสหรัฐ) ลดลง 0.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

·     กำไรจากการดำเนินงานรวม 69,100 ล้านเยน (641.5 ล้านเหรียญสหรัฐ) ลดลง 23.9 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

·     กำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่รวม 57,200 ล้านเยน (530.3 ล้านเหรียญสหรัฐ) ลดลง 26.1 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

"แม้ตลาดจะชะลอตัวในยุโรปและจีน โดยรายรับซึ่งยังไม่คำนวณความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนได้เพิ่มขึ้นเนื่องจากโตโยต้าผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้รายได้ลดลง  กำไรจากการดำเนินงานลดลงมีผลเนื่องมาจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นเพื่อการเติบโตในอนาคตและการลงทุนด้านไอทีเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและการส่งเสริมการปฏิรูปรูปแบบการทำงานรวมถึงการสูญเสียการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน” นาย ยาสุชิ มัตซึอิ เจ้าหน้าที่บริหารอาวุโสของ บริษัท เด็นโซ่คอร์ปอเรชั่นกล่าว

ในญี่ปุ่นการเพิ่มขึ้นของการผลิตยานยนต์นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของรายได้เป็น 796,500 ล้านเยน (7,400 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือเพิ่มขึ้น 2.3 เปอร์เซ็นต์ จากปีก่อน แม้จะมีปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นและความพยายามลดต้นทุน แต่ก็ยังส่งผลต่อกำไรของการดำเนินงานลดลงถึง 23,500 ล้านเยน (218.3 ล้านเหรียญสหรัฐ) ลดลง 31.0 เปอร์เซ็นต์ จากปีก่อน นี่เป็นผลมาจากการลงทุนเพื่อการเติบโตในอนาคต นี่เป็นผลมาจากการลงทุนเพื่อการเติบโตในอนาคต

ในทวีปอเมริกาเหนือปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นและการขยายตัวของยอดขายทำให้รายรับเพิ่มขึ้นเป็น 3,154,000 ล้านเยน (2,900 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 1.4 เปอร์เซ็นต์ จากปีก่อน กำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 8,200 ล้านเยน (75.9 ล้านเหรียญสหรัฐ) ลดลง 29.8 เปอร์เซ็นต์ จากปีก่อนเนื่องจากค่าใช้จ่ายด้าน การวิจัยและพัฒนา และการลงทุนเพิ่มขึ้นเพื่อขยายขีดความสามารถในการผลิตผลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้า

ในทวีปยุโรปรายได้รวม 1,587,000 ล้านเยน (1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ) ลดลง 12.8 เปอร์เซ็นต์ จากปีก่อนเนื่องจากการชะลอตัวของตลาด แม้จะมีความพยายามในการลดต้นทุน ปริมาณการผลิตที่ลดลง และการสูญเสียการแลกเปลี่ยนสกุลเงินทำให้กำไรจากการดำเนินงานลดลงเหลือ 3,200 ล้านเยน (30.1 ล้านเหรียญสหรัฐ) ลดลง 53.9 เปอร์เซ็นต์ จากปีก่อน

ในทวีปเอเชียการชะลอตัวของตลาดทำให้รายรับลดลง 329,100 ล้านเยนหรือ 3.1 พันล้านเหรียญสหรัฐลดลง 8.1 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว แม้จะมีความพยายามในการลดต้นทุนแต่กำไรจากการดำเนินงานลดลง 25,100 ล้านเยน (232.9 ล้านเหรียญสหรัฐ) ลดลง 25.5 เปอร์เซ็นต์ จากปีก่อน โดยมีสาเหตุมาจากปริมาณการผลิตที่ลดลงและการสูญเสียจากการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน

ในพื้นที่อื่น ๆ ส่วนใหญ่มาจากทวีปอเมริกาใต้โดยเฉพาะบราซิลและอาร์เจนตินา มีรายได้รวม 184,000 ล้านเยน (170.8 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 7.4 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน ได้กำไรจากการดำเนินงาน  4,100 ล้านเยน (38.4 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 59.2 เปอร์เซ็นต์ จากปีก่อน

“สำหรับปีงบประมาณใหม่เรายังไม่ได้ปรับปรุงรายได้และกำไรจากการดำเนินงานเนื่องจากความไม่แน่นอนของตลาดและความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน” มัตซึอิกล่าว

(อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ใช้คำนวณสำหรับทั้งปีคือ 110 เยน ต่อ 1 เหรียญสหรัฐ และ 125 เยน ต่อ 1)

หมายเหตุ:

การประมาณการดังกล่าวนี้เป็นการคาดการณ์จากฐานข้อมูลตามวันที่ประกาศซึ่งผลที่เกิดขึ้นจริงอาจแตกต่างจากนี้เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อัตราค่าเงินเหรียญสหรัฐที่ใช้ในการคำนวณ คือ 107.79 เยน ต่อ 1 เหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นอัตราแลกเปลี่ยนโดยประมาณที่ใช้กันในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่กรุงโตเกียว ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2562

เกี่ยวกับบริษัทเด็นโซ่ คอร์ปอเรชั่น

เด็นโซ่เป็นบริษัทผู้นำระดับโลกในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีการพัฒนาขั้นสูงทั้งในด้านเทคโนโลยีและส่วนประกอบภายในรถยนต์ที่ใช้สำหรับรถยนต์เกือบทุกรุ่นที่วิ่งอยู่บนท้องถนนในปัจจุบัน ซึ่งมีมูลค่าการตลาดกว่า 48,300 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีแกนหลักอยู่ที่อุตสาหกรรมการผลิต เด็นโซ่ลงทุนในกลุ่มบริษัทกว่า 220 แห่งใน 35 ประเทศทั่วโลกเพื่อทำการผลิต ระบบระบายความร้อน  ระบบส่งกำลัง ระบบการขับเคลื่อน และระบบไฟฟ้าในรถยนต์ ซึ่งช่วยสร้างงานที่ส่งผลโดยตรงต่อการเปลี่ยนแปลงการขับเคลื่อนของโลก เด็นโซ่มีพนักงานกว่า 170,000 คน ที่กำลังปูทางให้กับระบบขับเคลื่อนในอนาคตที่จะช่วยให้การดำรงชีวิตดีขึ้น  ขจัดอุบัติเหตุการจราจร และช่วยอนุรักษ์สภาพแวดล้อม โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองคาริยะ (ประเทศญี่ปุ่น) เด็นโซ่ใช้งบลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนาจำนวน 9.3 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายทั่วโลกในปีงบประมาณสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเด็นโซ่ทั่วโลกได้ที่     https://www.denso.com/global